เร ติ น เอ สรรพคุณ
เรตินเอเป็นวิธีรักษาที่ได้ผลดี คุณจะเห็นผลลัพธ์ได้ไม่ว่าคุณจะเริ่มรักษาในช่วงอายุใดก็ตาม [5] การเริ่มต้นรักษาด้วยเรตินเอตอนอายุ 40 ช่วงอายุ 50 ขึ้นไปอาจจะช่วยย้อนเวลาคุณให้กลับไปเป็นเด็กด้วยการทำให้ผิวนุ่มเด้ง ลดฝ้ากระ และลดการเกิดริ้วรอย ไม่มีใครแก่เกินกว่าจะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงในช่วงอายุ 20 ปีและ 30 ปีก็สามารถใช้ประโยชน์จากเรตินเอได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเด้งและกระชับ การเริ่มรักษาเรตินเอแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยใต้ผิวหนังส่วนลึกในช่วงอายุที่มากขึ้นได้ [6] 4 ระวังเรื่องราคา. ข้อเสียอย่างหนึ่งของการรักษาด้วยเรตินเอคือตัวครีมนั้นมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งราคาของเรตินเอจะอยู่ที่ 3000-5000 บาทต่อการรักษา 1 เดือน [7] ราคาจะแตกต่างตามความเข้มข้นของครีม ซึ่งจะมีตั้งแต่ 0.
พลังของ ‘เรตินอล’ ที่ช่วยเปลี่ยนผิวคุณ
เรตินเอ (Retin-A) เป็นยาที่แพทย์นิยมสั่ง สร้างขึ้นจากกรดวิตามินเอ โดยทั่วไปมีชื่อว่ากรดเทรทิโนอิน ( tretinoin acid) หรือกรดเรติโนอิก (retinoic acid) แม้ว่าเดิมกรดวิตามินเอจะใช้เพื่อรักษาสิว แต่ผู้แพทย์ผิวหนังพบว่าครีมเรตินเอนั้นสามารถใช้รักษาสัญญาณของการเสื่อมวัยได้ดี เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ หรือความหย่อนคล้อย บทความนี้จะบอกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการใช้เรตินเอเพื่อลดริ้วรอย เพื่อให้คุณกลับมาดูอ่อนวัยได้อีกครั้ง ส่วน 1 ของ 3: เริ่มต้น 1 เข้าใจถึงประโยชน์ของการใช้เรตินเอกับการชะลอวัย.
ช่วงเวลาในการใช้เรตินเอเพื่อผลลัพธ์ที่สังเกตเห็นได้นั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล [13] บางคนจะเห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน 1สัปดาห์ ในขณะที่บางคนอาจจะต้องรอถึง 8 สัปดาห์ อย่ายอมแพ้ เรติเอได้ยืนยันว่าจะได้ผลดีและเป็นครีมลดริ้วรอยที่ ได้ผลดีที่สุด ที่มีในตลาด นอกเหนือจากเรตินเอแล้ว วิธีที่ได้จัดการริ้วรอยได้ดีกว่าคือการไปฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือพิจารณาเข้ารับการทำศัลยกรรมตกแต่ง ส่วน 3 ของ 3: รู้ว่าควรหลีกเลี่ยงอะไร 1 อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไกลโคลิก (glycolic acid) หรือเบ็นโซอิล เปอออกไซด์ (benzoyl peroxide) ร่วมกับเรติเอ. กรดไกลโคลิกหรือเบ็นโซอิล เปอออกไซด์เป็นส่วนผสมที่มักจะพบในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อย่างไรก็ตาม สารเหล่านี้ส่งผลให้ผิวแห้ง ดังนั้น การหลีกเลี่ยงสารเหล่านี้ร่วมกับการใช้เรตินเอเป็นวิธีที่ดีที่สุด [14] 2 อย่าแว็กซ์ขนในส่วนที่ใช้เรตินเอ. เรตินเอทำงานโดยการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกสุดออก ดังนั้น ผิวจะบางและอ่อนแอ การแว็กซ์ขนบริเวณผิวใบหน้าในขณะที่ใช้เรตินเอนั้นไม่ใช่แนวคิดที่ดี [15] 3 อย่าสัมผัสแดด. เรตินเอทำให้ผิวคุณไวต่อแสงแดดเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงควรใช้ตอนกลางคืน อย่างไรก็ตาม คุณควรจะระวังในช่วงกลางวันด้วยการทาครีมกันแดด ทุกวัน โดยไม่สนว่าจะมีแดดหรือไม่มีแดดก็ตาม ผิวคุณต้องได้รับการปกป้อง [16] 4 อย่าใช้เรตินเอถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์.
เรตินอยด์มันดีอย่างไร? Harvard Medical School กล่าวว่าเรตินอยด์ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่อุดตันรูขุมขน และช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ เพื่อที่จะลดเลือนริ้วรอย และรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรตินอลมันดีอย่างไร? มันไม่น่าแปลกใจเลยที่เรตินอลจะมีคุณสมบัติคล้าย ๆ กับเรตินอยด์ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลนั้น สามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าทั่วไป แต่เพราะมีความอ่อนโยนกว่าเรตินอยด์บางชนิด ที่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ใช้ประกอบการซื้อ ประสิทธิของภาพเรตินอลในการลดเลือนริ้วรอย ก็จะไม่เท่ากับเรตินอยด์พวกนั้น ยังไงก็ตามเรตินอลก็ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าอย่างเห็นผลได้ชัด วิธีการใช้เรตินอลและเรตินอยด์ รู้อย่างนี้แล้ว ก็จะอยากใช้เรตินอยด์แล้วใช่ไหมหละ?
วิตามินเอ มีประโยชน์มากกว่ารักษาสิว⎮ Extern Bahboh - YouTube
#รีวิว Retin A เคลียร์หน้าสิวให้กลับเป็นหน้าใส - Shobjai
เมื่อพูดถึงส่วนผสมของสกินแคร์แล้ว คุณน่าจะเคยพบกับคำว่า "เรตินอล" (Retinol) กับ "เรตินอยด์" (Retinoid) มาก่อน แต่เพราะชื่อมันคล้าย ๆ กัน คุณอาจจะสงสัยว่าทั้ง 2 อย่างนี้ มันต่างกันตรงไหน? ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ จะมาอธิบายให้สาว ๆ เข้าใจความแตกต่างระหว่าง เรตินอล และ เรตินยด์กัน พร้อมทั้งแนะนำวิธีใช้อย่างถูกต้องค่ะ เรตินอล vs เรตินอยด์ ถึงแม้คุณอาจจะใช้เซรั่มที่มีเรตินอลในปัจจุบันอยู่แล้ว คุณก็อาจจะไม่รู้ว่า "เรตินอยด์" คืออะไร หรือยังไม่แน่ใจว่าเรตินอยด์นั้น ต่างจาก "เรตินอล" อย่างไร?
1% ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองน้อยกว่าการใช้ tretinoin และยังไม่ทราบแน่นอนว่ามีผลต่อการรักษา photoaging หรือไม่ Retinoid กลุ่มสังเคราะห์ อีกตัวหนึ่งคือ tazarotene ซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยกว่า tretinoin และ adapalene ใช้รักษาสิวและเรื้อนกวางเช่นกัน โดยมีจำหน่ายที่ความเข้มข้น 0. 05 และ 0. 1% ภายใต้ชื่อ Tazorac® และ Zorac® ส่วน Avage® ใช้รักษาผิวซึ่งถูกทำร้ายจากแสงแดด สิ่งที่ควรระวังมากที่สุดในการใช้สารในกลุ่มนี้ นอกเหนือไปจากการทำให้ผิวระคายเคือง คือก่อให้เกิด "teratogenic effect" นั่นคือทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ ดังนั้นผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ ห้ามใช้สารในกลุ่มนี้ (Retinoids) โดยเด็ดขาดค่ะ ขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่ง จาก โดย อ. ภญ. หรรษา มหามงคล อ้างอิงจาก Oblong JE., Bissett DL. Retinoids. In: Draelos ZD. ed. Cosmeceuticals. 2nd Ed. China: Elsevier: 2009; 37 - 44
- App - มูลค่าไตรมาสสุดท้ายที่ผ่านมาสูงถึง 620,000 ล้านบาท อันดับ 1 คือ Tinder และ WhatsApp - Notebookspec
- #รีวิว Retin A เคลียร์หน้าสิวให้กลับเป็นหน้าใส - Shobjai
- รับ ทำ เว็บ ก ทม
- วิธีการ ลดริ้วรอยด้วยเรตินเอ: 13 ขั้นตอน (พร้อมรูปภาพ) - wikiHow