สมเด็จเนื้อชานหมากหลวงปู่หมุน
พระครูนิยุตธรรมสุนทร (ยิด จันทสุวัณโณ) วัดหนองจอก ประจวบคีรีขันธ์ ๓๘. หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช วัดป่านิโครธาราม อุดรธานี ๓๙. พระครูสุวัณโณปมคุณ (คำพอง ติสโส) วัดป่าพัฒนาธรรม(ถ้ำกกดู่) อุดรธานี ๔๐. พระสุธรรมคณาจารย์ (เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต หนองคาย ๔๑. พระนพีสีพิศาลคุณ (ทองอินทร์ กุสลจิตโต) วัดสันติธรรม เชียงใหม่ ๔๒. พระครูการุณยธรรมนิวาส (หลวง กตปุญโญ) วัดป่าสำราญนิวาส ๔๓. หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน อยุธยา ๔๔. พระครูจิตตวิโสธนาจารย์ (หนู สุจิตโต) วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ ๔๕. หลวงปู่ขาน ฐานวโร วัดป่าบ้านเหล่า เชียงราย ๔๖. หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดอรัญญวิเวก นครพนม ๔๗. หลวงตาประสิทธิ์ ถาวโร วัดถ้ำยายปริก ชลบุรี ๔๘. หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น ๔๙. พระครูสุทธิธรรมรังษี (เจี๊ยะ จุนโท) วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม ปทุมธานี ๕๐. พระครูวรวุฒิคุณ (อิน อินโท) วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) เชียงใหม่ ๕๑. ครูบาคำหล้า สังวโร สำนักสงฆ์ห้วยขุนสวด พะเยา ๕๒. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ. ศรีสะเกษ ๕๓. หลวงปู่สรวง ( เทวดาเล่นดิน) วัดไพรพัฒนา จ. ศรีสะเกษ วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ…" ของๆ ฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคหมุนลาภ ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจน ประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายๆเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไป ด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระ ที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน " หลวงปู่หมุน ท่านกำเนิดเมื่อ พศ.
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม กทม. ๒. หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร ๓. พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พรหมจักโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน ๔. หลวงปู่สิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้วบ้านชุมพล สกลนคร ๕. หลวงปู่ครูบาบุญปั๋น ธัมมปัญโญ วัดร้องขุ้ม เชียงใหม่ ๖. หลวงปู่คำตัน ฐิตธัมโม วัดป่าดานศรีสำราญ หนองคาย ๗. พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี ๘. หลวงปู่เข่ง โฆษธัมโม วัดป่าสีห์พนม สกลนคร ๙. พระญาณสิทธาจารย์ (สิม พุทธจาโร) วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ ๑๐. พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (วัน อุตตโม) วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สกลนคร ๑๑. พระครูอินทวุฒิกร (ต่วน อินทปัญโญ) วัดกล้วย อยุธยา ๑๒. พระครูวิเวกพุทธกิจ (เสาร์ กันตสีโล) วัดดอนธาตุ อุบลราชธานี ๑๓. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี ๑๔. หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ วัดเจติยาคีรีวิหาร หนองคาย ๑๕. พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา ๑๖. พระครูศาสนูปกรณ์ (บุญจันทร์ กมโล) วัดสันติกาวาส อุดรธานี ๑๗. หลวงปู่คำฟอง มิตตภานี วัดป่าศรีสะอาด สกลนคร ๑๘. พระราชวุฒาจารย์ (ดูลย์ อตุโล) วัดบูรพาราม สุรินทร์ ๑๙. หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง เลย ๒๐.
โอนเงินแล้วได้รับพระแน่นอน 2. รับพระมีปัญหาส่งคืนทันที ได้เงินคืนแน่นอน 3. รวดเร็ว เหมือนโอนเงินแบบปกติทั่วไป 4. ค่้าธรรมเนียม 60-100 บาท คลิ๊กด้านล่าง กรอบสี่เหลี่ยมตัวหนังสือเขียวๆได้เลยครับ พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้... อื่นๆ... ยินดีต้อนรับสู่ เว็บไซต์พระเครื่องที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ระบบค้นพบว่าคุณพึ่งเคยเข้า เป็นครั้งแรก ข้อควรรู้เกี่ยวกับ คุณสามารถ: เปิดร้านค้าของคุณเอง ฟรี ตั้งประมูล ฟรี ร่วมประมูล ฟรี เว็บบอร์ด พูดคุยกับเพื่อนฝูงในวงการพระเครื่อง ฟรี ระบบซื้อขายอย่างปลอดภัย ฟรี เผยแพร่ หรือ อ่านบทความพระเครื่อง ฟรี ระบบทำเนียบพระเครื่อง มีปัญหาข้อสงสัยติดต่อ หมายเหตุ: คุณควรบันทึกรายการโปรดไว้ เพื่อเข้ามาใช้บริการในภายหลัง
พระสาวกสมัยปัจจุบัน พระสาวกสมัยปัจจุบันนั้น คือช่วงตั้งแต่ก่อน พ. ศ.
๒๔๓๗ – ๒๕๔๖ อายุยืนถึง ๑๐๙ ปี พระเครื่องของท่านออกมา ช่วงบั้นปลายชีวิต ในปี พศ.
ภาพตัวอย่างเม็ดพระธาตุของพระพุทธสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งในสมัยพุทธกาลและสมัยปัจจุบัน พระธาตุพุทธสาวก นับตั้งแต่สมัยพุทธกาลเป็นต้นมา มีพระสงฆ์จำนวนมากมาย ที่ปฏิบัติตามแนวทางที่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวางเอาไว้ และมีความเพียรพยายามอย่างยิ่ง จนกระทั่งสามารถยกจิตก้าวบรรลุสู่ภูมิธรรมขั้นต่างๆ นับแต่พระโสดาบันเป็นต้นไป และสิ่งที่สามารถยืนยันได้ว่าท่านเหล่านั้นสามารถบรรลุภูมิธรรมขั้นสูงได้ก็คือ พระธาตุ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีพระอริยสงฆ์มากมายที่สามารถปฏิบัติธรรมจนกระทั่งอัฐิกลายเป็น "พระธาตุ" และมีลักษณะแตกต่างกันมากมาย ซึ่งสามารถแยกออกได้เป็น ๒ กลุ่ม ดังนี้ ๑. พระสาวกสมัยพุทธกาลและสมัยโบราณ โดยพระสาวกสมัยพุทธกาลนั้น คือ พระสาวกที่ดำรงขันธ์อยู่ในช่วงสมัยพุทธกาล จนกระทั่งถึงภายหลังพุทธกาลไม่นาน ส่วนพระสาวกสมัยโบราณ คือ พระสาวกที่ดำรงขันธ์ในช่วงภายหลังพุทธปรินิพพานจนถึง ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๔ พระสาวกในกลุ่มนี้จึงมีเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ปรากฏนามและไม่ปรากฏนาม ในตำรา พระสาวกสมัยพุทธกาลที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป เช่น พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร เป็นต้น และพระสาวกสมัยโบราณที่เป็นที่รู้จักกันดีโดยทั่วไป เช่น พระอุปคุต เป็นต้น ๒.
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ ๒๑. หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร วัดป่าวังเลิง มหาสารคาม ๒๒. หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์ ๒๓. หลวงปู่กอง จันทวังโส วัดสระมณฑล อยุธยา ๒๔. พระครูพรหมเทพาจารย์ (เทพ ถาวโร) วัดท่าแคนอก(เทพนิมิตร) ลพบุรี ๒๕. หลวงปู่เมตตาหลวง (สิงห์ สุนทโร) วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม นครราชสีมา ๒๖. สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จันทปัชโชโต) วัดนรนารถสุนทริการาม กรุงเทพฯ ๒๗. หลวงพ่อประยุทธ์ ธัมยุทโต วัดป่าผาลาด กาญจนบุรี ๒๘. หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี(ภูจ้อก้อ) มุกดาหาร ๒๙. พระภาวนาวิสุทธิเถร (กัมพล กัมพโล) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ ๓๐. พระครูขันตยาภรณ์ (คำ ขันติโก) สุสานไตรลักษณ์ เชียงใหม่ ๓๑. พระครูสุคันธศีล (คำแสน อินทจักโก) วัดสวนดอก(บุปผาราม) เชียงใหม่ ๓๒. หลวงปู่กุ่น จิรกุโล วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ สมุทรสาคร ดูรูป ๓๓. หลวงปู่ปั่น สุจิณโณ วัดพรพระร่วงประสิทธิ์ กรุงเทพฯ อ่าน/ดูรูป ๓๔. พระครูประสิทธิธรรมญาณ (แบน กันตสาโร) วัดมโนธรรมาราม(นางโน) กาญจนบุรี ๓๕. พระครูพิสิษฐ์อรรถการ (คล้าย จันทสุวัณโณ) วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช ๓๖. พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) วัดจันทาราม(ท่าซุง) อุทัยธานี ๓๗.